วันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2556

คั่วกลิ่งหมู


1.คั่วกลิ่งหมู

อาหารไทยภาคใต้,มปป.ระบุว่า เป็นอาหารพื้นบ้านอย่างหนึ่งของภาคใต้ สามารถปรุงกับ เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว หรือ วัตถุดิบอื่นๆ ตามชอบ[1]
วิธีทำ

    นำเนื้อที่เตรียมไว้ล้างให้สะอาดจากนั้นสับให้ละเอียด (ไม่ควรใช้เนื้อบด)
    นำส่วนผสม พริกขี้หนูสวน พริกไทย ตะไคร้ กระเทียม ขมิ้นชัน ผิวมะกรูด โขลกรวมกัน โดยกะปิยังไม่ต้องใส่(หากใช้เครื่องปั่นอาจทำให้มีกลิ่นหืนของพริกขี้หนูได้ และต้องผสมน้ำอันจะทำให้ความเป็นคั่วกลิ้งเสียรูปแบบได้) ให้ละเอียด จากนั้นใส่กะปิลงไป
    น้ำเนื้อที่สับไว้ลงกะทะ คั่วด้วยไฟอ่อนๆ ระหว่างนั้นต้องใช้ทัพพีสับไปเรื่อยเพื่อไม่ให้เนื้อเกาะตัวกันเป็นก้อน
    เมื่อเนื้อสุกทั่วแล้วนำพริกแกงที่โขลกไว้ใส่ลงไปในกะทะ
    หากแห้งเกินไปให้เติมน้ำลงไปเล็กน้อย
    คลุกเคล้าให้พริกแกงและเนื้อเข้ากัน
    คั่วต่อไปเรื่อยๆ จนพริกแกงสุกได้ที่จึงใส่ใบมะกรูดหั่นฝอยลงไป
    ชิมดูรสชาติและปรุงแต่งรส เมื่อได้รสชาติที่ต้องการแล้ว เป็นอันเสร็จพร้อมรับประทาน
อ้างอิงคั่วกลิ่งหมู,มปป. ชื่อเริ่องอาหารไทย(ออนไลน์).สืบค้นจาก
 วิดีโอ



http://th.wikibooks.org/

แกงเหลืองปลากะพงยอดมะพร้าว


2.แกงเหลืองปลากะพงยอดมะพร้าว
  
  อาหารไทยภาคใต้,มปป.ระบุว่า คนภาคกลางเรียกชื่อแกงส้มของภาคใต้ซึ่งนิยมใส่ขมิ้นว่า แกงเหลืองเพราะน้ำแกงมีสีเหลืองจากขมิ้น แกงส้มของคนใต้หรือแกงเหลืองของคนภาคกลาง ต่างจากแกงส้มของภาคกลางตรงที่แกงส้มภาคใต้นิยมใช้พริกขี้หนูสด และใช้น้ำมะนาวในการแต่งรสเปรี้ยว แกงเหลืองปลากะพง จะมีรสเปรี้ยวและเผ็ดนำ น้ำแกงมีสีเหลืองของขมิ้น เนื้อปลากะพงจะมีรสหวาน ไม่คาว ปลากะพงขนาดใหญ่ เมื่อนำมาทำแกงจะให้รสชาติดีกว่าปลากะพงตัวเล็กคนภาคกลางเรียกชื่อแกงส้มของภาคใต้ซึ่งนิยมใส่ขมิ้นว่า แกงเหลืองเพราะน้ำแกงมีสีเหลืองจากขมิ้น แกงส้มของคนใต้หรือแกงเหลืองของคนภาคกลาง ต่างจากแกงส้มของภาคกลางตรงที่แกงส้มภาคใต้นิยมใช้พริกขี้หนูสด และใช้น้ำมะนาวในการแต่งรสเปรี้ยว แกงเหลืองปลากะพง จะมีรสเปรี้ยวและเผ็ดนำ น้ำแกงมีสีเหลืองของขมิ้น เนื้อปลากะพงจะมีรสหวาน ไม่คาว ปลากะพงขนาดใหญ่ เมื่อนำมาทำแกงจะให้รสชาติดีกว่าปลากะพงตัวเล็ก
คุณค่าอาหารทางโภชนาการ แกงเหลืองปลากะพงยอดมะพร้าว ชื่อก็บอกว่าเป็นแกงทางปักษ์ใต้แน่นอน แกงเหลืองปักษ์ใต้ก็คือแกงส้มของภาคอื่นๆ เพราะว่า แกงเหลืองมีการใส่ขมิ้น อย่างที่ทราบกันดีว่าเอกลักษณ์ของอาหารปักษ์ใต้ก็คือ ต้องมีขมิ้นเป็นองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นอาหารทอด อาหารผัด หรือแกง ส่วนใหญ่มักต้องใส่ขมิ้น และขมิ้นก็เป็นสมุนไพรที่ดีและมีประโยชน์ มีงานวิจัยต่างๆ รายงานถึงประโยชน์ของขมิ้นว่าสามารถช่วยในเรื่องของการต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ
อ้างอิงแกงเหลืองปลากะพงยอดมะพร้าว,มปป. ชื่อเริ่องอาหารไทย(ออนไลน์).สืบค้นจาก

www.inmu.mahidol.ac.t

แกงคั่วกุ้งใส่มระ


3.แกงคั่วกุ้งใส่มะระ

อาหารไทยภาคใต้,มปป.ระบุว่าส่วนผสม
กุ้ง ไซส์ขนาดกลาง 250 กรัม
มะระ 250 กรัม
หัวกะทิ 1 ถ้วย
หางกะทิ 2 ถ้วย
เครื่องแกงใต้ 2 ช้อนโต๊ะ
กะปิ 1 ½ ช้อนโต๊ะ
เกลือป่นเล็กน้อย
ใบมะกรูดฉีกหรือหั่นฝอยก็ได้
วิธีทำ
1. นำกุ้งมาปอกเปลือก แล้วผ่าหลังเอาเส้นดำออก
2. มะระนำมาผ่าครึ่งตามยาว แล้วคว้านเอาไส้และเมล็ดออก หั่นเป็นชิ้นบางแช่น้ำเกลือไว้
3. เคี่ยวหัวกะทิในกระทะด้วยไฟปานกลาง ค่อยๆ คนจนกะทิแตกมัน ใส่เครื่องแกงลงไปผัดให้หอม
4. ใส่กุ้งลงไปผัดจนเนื้อกุ้งเป็นสีชมพู แล้วใส่หางกะทิลงไป ต้มจนน้ำแกงเดือด
5. ปรุงรสด้วยเกลือป่นตามชอบ เสร็จแล้วใส่มะระลงไปต้มต่อจนมะระสุก
6. โรยใบมะกรูด แล้วปิดไฟตักเสิร์ฟได้เลย
อ้างอิง แกงคั่วใส่มระ ,มปป. ชื่อเริ่องอาหารไทย(ออนไลน์).สืบค้นจาก

http://www.kangtung.com

แกงคั่วกระดูกหมู


4.แกงคั่วกระดูกหมู
อาหารไทยภาคใต้,มปป.ระบุว่าวันนี้นั่งโขลกน้ำพริกแกงคั่วจนปวดแขนเลย เหตุเพราะซื้อซี่โครงหมูอ่อนมาเมื่อวานเย็น ตอนแรกกะว่าจะเอามาทอดกระเทียมพริกไทย พอจะลงมือทำจริงๆ กับเกิดเปลี่ยนใจทำเป็น แกงคั่วซี่โครงหมู ดีกว่า จะได้มีรสชาติเผ็ดร้อนและมีเครื่องสมุนไพรเยอะด้วย เพราะปกติจะซื้อจากร้านอาหารปักใต้ทานอยู่เป็นประจำ แต่หลังออกจากโรงพยาบาลมานี่ยังไม่ได้กินเลย เคยขับรถเวียนไปดูหลายรอบแล้วไม่เห็นร้านเปิดซักที สงสัยจะปิดร้านหนีหายไปไหนแล้วแน่นอน ในเมื่อไม่ขายก็ไม่ง้อก็ได้ ลงมือทำเองดีกว่าจะได้ไม่ต้องกินผงชูรสด้วย ว่าแล้วเรามาเข้าครัวทำ แกงคั่วซี่โครงหมู ทานกันดีกว่าค่ะ (แต่สูตรอาจจะไม่ใช่แบบของอาหารปักใต้ ก็เพราะหนูเป็นสาวเหนือ อิอิ แต่รับรองแซ่บร้อนแน่นอนค่ะ)

สิ่งที่ต้องเตรียม
ซี่โครงหมูอ่อน 400 กรัม
น้ำพริกแกงคั่ว 70 กรัม
มะเขือเปราะ 5-6 ลูก
มะเขือพวง 1/3 ถ้วย
ใบมะกรูด 5 ใบ
ผักชีฝรั่ง 3-4 ใบ
พริกชีฟ้า 3 เม็ด
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันสำหรับผัด
น้ำเปล่า
วิดีโอ

อ้างอิง แกงคั่วกระดูกหมูไก่ ,มปป. ชื่อเริ่องอาหารไทย(ออนไลน์).สืบค้นจาก

http://pitchaya.net/

แกงมัสมั่นไก่


5.แกงมัสมั่นไก่

อาหารไทยภาคใต้,มปป.ระบุว่า แกงครั้งนี้ ทำพริกแกงมัสมั่นเอง
ซึ่งจัดเป็นการเตรียมพริกแกงที่มีส่วนประกอบเยอะมาก น่าจะเยอะที่สุดตั้งแต่เริ่มทำอาหารมา
และมีขั้นตอนการทำพริกแกงอีกเยอะ  เลยเตรียมพริกแกงไว้ปริมาณ 2 เท่า เพื่อว่าจะได้ไปทำแกงมัสมั่นเนื้ออีกครั้ง
พริกแกงมัสมั่นมีส่วนประกอบดังนี้
- เครื่องเทศ 8 ชนิด
- หอมเจียว
- กระเทียมเจียว
- พริกชี้ฟ้าแห้ง แกะเมล็ดออกให้หมด นำไปทอด การทอดทำให้ได้ความหอมของพริก
- ข่า ตระใคร้ รากผักชี นำไปคั่วให้หอม
- ถั่วลิสงป่น (เพื่อให้แกงข้น)
สำหรับหอมและกระเทียมนั้นบางสูตรจะนำไปคั่วให้สุกแทนการทอด
เครื่องเทศ 8 ชนิด ได้แก่ ลูกจันทร์ ดอกจันทร์ กานพลู ลูกผักชี ยี่หร่า อบเชย พริกไทย ลูกกระวาน
ปรากฎว่า เครื่องเทศที่บ้านมีอยู่แต่ไม่ครบ ขาด ดอกจันทร์และลูกจันทร์ ต้องไปหาซื้อเครื่องเทศเพิ่มที่ร้านขายยาจีน ย่านตลาดเก่า ได้รับความรู้เพิ่มเติมว่า ดอกจันทร์นี้ ราคาแพงมาก ขีดละ 180 บาท ซื้อมา 1/2 ขีดเท่านั้น เพราะแกง 1 หม้อใช้ดอกจันทร์ดอกเดียวเท่านั้น ส่วนลูกจันทร์ ขีดละ 40 บาท แกง 1 หม้อใส่ลูกจันทร์ครึ่งลูกนำเครื่องเทศทั้งหมดไปคั่วให้หอม
อ้างอิง  แกงมัสมั่นไก่ ,มปป. ชื่อเริ่องอาหารไทย(ออนไลน์).สืบค้นจาก
วิดีโอ


http://pantip.com/topic/30561185

แกงไตปลา


6.แกงไตปลา

อาหารไทยภาคใต้,มปป.ระบุว่า  หลาย ๆ คนชอบ  มักกินคู่กับขนมจีนหรือข้าวสวย  มีผักสดแกล้มคู่กัน  กินแล้วต้องน้ำหูน้ำตาไหลถึงจะอร่อย กินแกงไตปลาแบบไม่เผ็ด  ไม่เข้มข้น  เหมือนไม่ครบเครื่องจริง ๆ
แม่หลิ่มรู้จักแกงไตปลาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วค่ะ  แต่จริง ๆ แล้วแม่ของแม่หลิ่มไม่เคยทำให้กินเลย  แม่จะมีแกงไตปลาจ้าวประจำอยู่ไกลบ้านพอสมควร  เขาจะทำขายทุกวันพุธ  แม่จะให้แม่หลิ่มขี่จักรยานหรือรถมอเตอร์ไซต์ไปซื้อครั้งละ 2 ถุง  แล้วก็กินกับพ่อแค่ 2 คนเท่านั้น  เพราะมันเผ็ดมากและข้นมาก ๆ  สีออกคล้ำ ๆ มากด้วย  เวลาที่แม่กินแกงไตปลาทีไรจะทำหัวไชโป๊วผัดไข่เพื่อกินคู่กันภาคใต้เขามีแกงไตปลาหลากหลายแบบ  แบบไม่ใส่กะทิ  แบบใส่กะทิ  แบบไม่ใส่ผัก
แม่หลิ่มทำแกงไตปลากินเองหลายครั้งแล้ว  ประกอบกับคิดเอาเองบ้างประกอบกันนะคะ
    ใส่ถั่วฝักยาวและมะเขือเปาะที่ผ่าแล้วลงไป  ใช้ทัพพีคนพอทั่ว  เร่งไฟให้แรงเพื่อให้ผักสุก  ถ้าน้ำงวดไปจนน้ำแกงรสชาติเค็มจัดให้ใส่น้ำเพิ่มได้ครั้งละตามสมควร
วิดีโอ


http://www.maesalim.com/cuisines/